บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
ภาพรวมของธุรกิจ
บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ("บริษัท" หรือ "CEPL"') ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมีนโยบายเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ และมีแนวโน้มในการเติบโตสูง จากการที่หลายประเทศทั่วโลกเริ่มให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยมีการออกมาตรการกระตุ้นและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อดูแลรักษาสั่งแวดล้อมและสร้างความมั่นคงต้านพลังงานให้กับประเทศ บริษัทและบริษัทย่อย รวมเรียกว่า "บริษัท" ได้เข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน โดยมุ่งเน้นด้านการลงทุนและการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง ในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทประกอบธุรกิจหลัก 4 ประเภท ดังนี้
ธุรกิจหลักของ Chow Energy PCL
1. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
2. ธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
3. ธุรกิจจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
4. ธุรกิจจำหน่ายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เชิงกลยุทธ์
บริษัทดำเนินธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก โดยเริ่มจากการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นผ่านการเข้าซื้อหุ้นหรือส่วนได้เสียในบริษัทต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่นที่ถือครองกรรมสิทธิ์ในโรงไฟฟ้า หรือใบอนุญาตที่สำคัญสำหรับการประกอบกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และได้ดำเนินการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าจนแล้วเสร็จและสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ จากนั้น บริษัทได้ขยายธุรกิจการลงทุนในประเทศญี่ปุ่น โดยการทยอยเข้าซื้อใบอนุญาตที่สำคัญของโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ เพื่อนำมาพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จนมีจำนวนโครงการที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปิ
จากประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยทีมบุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชียวชาญในอุตสาหกรรม บริษัทได้เริ่มขยายธุรกิจการเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน
ให้แก่นักลงทุนที่สนใจลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และได้ขยายขอบเขตธุรกิจจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ในระหว่างปี บริษัทอาจมีการจำหน่ายโรงไฟฟ้าบางโครงการที่เปิดด่าเนินการเชิงพาณิชย์ หากพิจารณาแล้วว่า การจำหน่ายโครงการดังกล่าวให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม สามารถสร้างกระแสเงินสดและสภาพคล่องให้กับกลุ่มบริษัทเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าที่มีขนาตใหญ่ขึ้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนที่สูงสุด
นอกจากการลงทุนในประเทศญี่ปุ่น บริษัทได้เข้าลงทุนและพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ในประเทศไทย เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสจากการที่ภาครัฐให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (Very Small Power Plant หรือ VSPP) โดยการลงทุนตั้งกล่าว นอกจากจะช่วยให้บริษัทมีฐานลูกค้าในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ยังเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจให้กับบริษัท จากเดิมที่มุ่งเน้นด้านการลงทุนและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียว จึงทำให้ในปัจจุบันบริษัทถือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดด้านการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ สามารถให้คำปรึกษาและให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ประเภท Solar Rooftop และSolar Farm ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างครบวงจร
บริษัทมีนโยบายขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ทั้งการลงทุนด้วยตนเองผ่านบริษัทย่อยและการลงทุนร่วมกับพันธมิตรรายอื่น เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าในระดับสูง อีกทั้งบริษัทได้สั่งสมประสบการณ์ในธุรกิจและอุตสาหกรรมดังกล่าวมาเป็นเวลานาน จึงมีศักยภาพในการขยายธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างดี บริษัทได้ขยายการลงทุนในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในโลก จากการสนับสนุนของรัฐบาลออสเตรเลียที่ต้องการปรับเปลี่ยนแหล่งพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นพลังงานทดแทนเพื่อลดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน จากประสบการณ์ในธุรกิจ ความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ จึงมีโอกาสขยายตลาดสู่ประเทศออสเตรเลียที่มีศักยภาพการเติบโตสูงมาก โดยในปัจจุบันการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของกลุ่มบริษัทเป็นการลงทุนในประเทศญี่ปุ่น ประเทศไทย และ ประเทศออสเตรเลีย